ฟีลเลอร์ร่องแก้วต้องใช้กี่ cc ต่อข้าง?
Key Takeaways
- ฟีลเลอร์ร่องแก้วต้องใช้กี่ cc: โดยทั่วไปประมาณ 1-2 cc ต่อข้าง (2-4 cc รวม) ขึ้นกับความลึกและขนาดร่องแก้ว
- ร่องตื้น: 0.5-1 cc ต่อข้าง; ร่องลึก: 1.5-2 cc ต่อข้าง
- ผิวบาง/โครงหน้าเด่น: เริ่มที่ 0.3-0.5 cc ต่อข้าง
- แพทย์ประเมินก่อนฉีด และอาจฉีดแบ่งเป็นจุดเพื่อความสมดุลและลดบวม
- ระยะผลลัพธ์ประมาณ 6-24 เดือน ขึ้นกับชนิดฟิลเลอร์และการดูแลหลังฉีด
- ชนิดฟีลเลอร์ต่างๆ มี Juvederm (เรียบ) กับ Restylane (ยืดหยุ่น) เลือกตามสภาพร่องและผิว
ฉัน จะ ตอบ คำถาม ฟีลเลอร์ร่องแก้วต้องใช้กี่ cc อย่าง ชัดเจน โดย อ้าง ข้อมูล ทาง การ แพทย์ และ ความรู้ คลินิก จริง เพื่อ ช่วย คุณ เข้าใจ ว่า ปริมาน ที่ เหมาะ สม แตก ต่าง ตาม ร่อง ลึก โครง หน้า และ เทคนิค การ ฉีด ฉัน จะ พา คุณ ผ่าน ช่วง มาตรฐาน พร้อม กรณี ตัวอย่าง จริง และ ข้อ ควร ระวัง เพื่อ ให้ คุณ ตัดสินใจ อย่าง มี ข้อมูล ปลอดภัย และ เห็น ผล จริง
ฟีลเลอร์ร่องแก้วต้องใช้กี่ cc — ปริมาณโดยทั่วไปและมีตัวอย่างกรณีใดบ้าง?

ฟีลเลอร์ร่องแก้วต้องใช้กี่ cc: ช่วงมาตรฐาน (ตัวอย่าง 0.5–2.0 cc ต่อข้าง/รวม)
เมื่อถามว่า ฟีลเลอร์ร่องแก้วต้องใช้กี่ cc? คำตอบทั่วไปในวงการแพทย์บอกว่า ฟีลเลอร์ในร่องแก้วมักใช้ระหว่าง 0.5 ถึง 2.0 cc ต่อข้าง หรือรวมกันประมาณ 1.0 ถึง 4.0 cc ขึ้นอยู่กับความลึกของร่องและสภาพผิวผู้รับบริการ ปริมาณนี้ถือเป็นช่วงมาตรฐานที่ปลอดภัยและเห็นผลชัดเจน
ฟิลเลอร์ 1 cc เทียบเท่ากับ 1 มิลลิลิตร หรือขนาดเจลใสเท่ากับเหรียญบาท น้อยกว่านั้นอาจไม่เห็นผล แต่ถ้าเกินไปอาจทำให้ดูผิดธรรมชาติได้ สำหรับร่องแก้มข้างเล็กน้อย ใช้เพียง 0.5 cc ก็เพียงพอ ส่วนร่องแก้มลึกอาจต้องใช้จนเกือบ 2 cc ต่อข้างเพื่อเติมเต็มความอิ่มฟูอย่างเหมาะสม
การเลือกปริมาณฟีลเลอร์จึงต้องตรวจสอบความลึกและความเรียบเนียนของร่อง รวมถึงปัจจัยอื่น เช่น ผิวบางหรือโครงหน้า เพื่อใช้ฟีลเลอร์อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ตัวอย่างเคส: ร่องตื้น vs ร่องลึก (ตัวเลขและแนวทางการเริ่มฉีด)
ในกรณีร่องตื้น ฟีลเลอร์ 0.5 ถึง 1 cc ต่อข้างเพียงพอสำหรับปรับผิวให้เรียบขึ้นและดูสดใสขึ้น ส่วนร่องลึกที่เห็นชัดเจนอาจต้องใช้ 1.5 ถึง 2 cc ต่อข้างเพื่อเติมเต็มอย่างสมบูรณ์แบบ แพทย์จะพิจารณาความลึกของร่องและผิวบริเวณนั้นก่อนฉีดเสมอ
ในเคสร่องลึก อาจต้องฉีดแบบแบ่งหลายจุด เพื่อกระจายปริมาณฟีลเลอร์อย่างเหมาะสม และลดอาการบวมหลังฉีด นอกจากนั้นยังใช้เวลาสังเกตผลลัพธ์แล้วนัดฉีดเติมเติมตามความจำเป็น
กรณีผิวบางหรือโครงหน้าเฉพาะที่ต้องปรับแผนปริมาณ
สำหรับคนที่มีผิวบาง หรือกระดูกโครงหน้าเด่นชัด การใช้ฟีลเลอร์ร่องแก้วต้องใช้ปริมาณที่น้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน บางรายอาจเริ่มที่ 0.3–0.5 cc เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวดูอูมเกินไป และลดความเสี่ยงบวมช้ำ เพราะผิวบางจะดูเปลี่ยนง่ายจากฟีลเลอร์มากเกินไป การใช้ปริมาณน้อยและฉีดช้าๆ จะช่วยให้ฟิลเลอร์กระจายตัวดีและเป็นธรรมชาติมากกว่า
ด้วยเหตุนี้ การวางแผนฉีดฟีลเลอร์ร่องแก้วแต่ละเคส ต้องวิเคราะห์โครงหน้าและลักษณะผิวร่วมด้วยเสมอ เพื่อให้ผลลัพธ์สวยงามและปลอดภัย
จากข้อมูลทั้งหมดนี้ ความเข้าใจเรื่อง ฟีลเลอร์ร่องแก้วต้องใช้กี่ cc จึงมีความสำคัญมาก เพื่อเตรียมตัวในขั้นตอนการฉีดและคุยกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างถูกต้อง
ฟีลเลอร์ร่องแก้วต้องใช้กี่ cc

ฟีลเลอร์ร่องแก้วต้องใช้กี่ cc
ฟีลเลอร์ร่องแก้วต้องใช้ประมาณ 1-2 cc ต่อข้าง ขึ้นอยู่กับความลึกและขนาดของร่องแก้วแต่ละคน ในกรณีที่ร่องแก้วลึกมาก อาจต้องใช้ฟีลเลอร์มากขึ้น หรือแบ่งฉีดเป็นหลายครั้งเพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
โดยทั่วไป ฟีลเลอร์ 1 cc มีปริมาณเท่ากับ 1 มิลลิลิตร ซึ่งเป็นเจลใสขนาดเล็กที่สามารถเติมเต็มร่องลึกได้ชัดเจน การเติมเพียง 1 cc ก็อาจเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันที แต่ถ้าร่องแก้วมีความลึกมาก การใช้ 2 cc จะช่วยปรับปรุงร่องให้ตื้นขึ้นและใบหน้าดูอ่อนเยาว์มากขึ้น
แพทย์จะประเมินปัญหาและเลือกปริมาณที่เหมาะสมตามลักษณะผิวและความต้องการของคนไข้ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดความเสี่ยงจากการเติมฟีลเลอร์เกินหรือไม่ทั่วถึง นอกจากนี้ การใช้ฟีลเลอร์หลายแบรนด์ เช่น Juvederm หรือ Restylane อาจมีความแตกต่างเล็กน้อยในความหนาแน่นของเนื้อฟีลเลอร์ จึงทำให้ปริมาณที่ใช้แตกต่างกันไปตามผลิตภัณฑ์ที่เลือกใช้
สรุปได้ว่า ฟีลเลอร์ร่องแก้วต้องใช้กี่ cc เป็นเรื่องที่ต้องตรวจสอบก่อนฉีด ถ้าร่องลึกไม่มาก 1 cc ก็อาจพอเพียง แต่ถ้ามากขึ้นอาจต้องใช้ถึง 2 cc หรือแบ่งฉีดหลายจุด เพื่อความปลอดภัยและความสวยงามที่ยาวนานมากกว่า 6-12 เดือน
การพบแพทย์เพื่อปรึกษา ฟีลเลอร์ร่องแก้วต้องใช้กี่ cc จึงสำคัญมาก เพราะแพทย์จะช่วยแนะนำวิธีและปริมาณที่เหมาะสมกับสภาพผิวและความต้องการ รวมถึงคำนึงถึงความปลอดภัยและการดูแลหลังฉีดที่ถูกต้องด้วย
ฟีลเลอร์ร่องแก้วต้องใช้กี่ cc ต่อข้าง?
ฟีลเลอร์ร่องแก้วต้องใช้กี่ cc
ฟีลเลอร์ร่องแก้วต้องใช้กี่ cc? โดยทั่วไปจะใช้ประมาณ 1 cc ต่อข้าง เพื่อเติมเต็มร่องแก้มที่ลึกไม่มาก ฟีลเลอร์ขนาด 1 cc จะช่วยยกผิว เติมเต็ม ร่องแก้มให้เรียบเนียนขึ้น เห็นผลชัดเจนแม้ใช้ปริมาณน้อย ฟีลเลอร์แบบนี้มีลักษณะเป็นเจลใสขนาดเท่าเหรียญบาท ซึ่งทำให้ฉีดได้แม่นยำและกระจายสวยงาม
ปริมาณ 1 cc นี้เหมาะกับผู้ที่มีร่องแก้มเริ่มลึกเล็กน้อยถึงปานกลาง ส่วนใครที่มีร่องแก้มลึกมาก อาจต้องใช้มากกว่านี้ตามคำแนะนำแพทย์ เพราะการเติมเต็มที่มากกว่า 1 cc ต่อข้างจะช่วยยกผิวได้ดีขึ้นและลดความลึกของร่องแก้มได้มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม การวางแผนใช้ฟีลเลอร์ไม่ใช่แค่ดูที่ปริมาณเพียงอย่างเดียว แต่ต้องคำนึงถึงหลายปัจจัยประกอบกัน เช่น ความลึกของร่องแก้ม อายุของผู้รับการฉีด และลักษณะของผิวหน้า เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาดูเป็นธรรมชาติ และเหมาะกับรูปหน้าแต่ละบุคคล
การฉีดฟีลเลอร์ 1 cc ต่อข้างนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี บางกรณีถ้าเห็นผลไม่เต็มที่ แพทย์อาจแนะนำเติมเพิ่มในครั้งถัดไป การดูแลหลังฉีดก็สำคัญ เพื่อให้ฟีลเลอร์อยู่ได้นาน 6-24 เดือน ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของฟิลเลอร์และการดูแลตัวเอง
โดยสรุป ฟีลเลอร์ร่องแก้วต้องใช้กี่ cc? คำตอบคือ เริ่มที่ 1 cc ต่อข้าง และปรับเพิ่มตามความลึกของร่องและสภาพผิวหน้าของแต่ละคน เพื่อให้ดูอ่อนเยาว์และสดใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติที่สุด
ฟีลเลอร์ร่องแก้วต้องใช้กี่ cc
ฟีลเลอร์ร่องแก้วต้องใช้กี่ cc
โดยทั่วไป ฟีลเลอร์ร่องแก้วต้องใช้ประมาณ 1 ถึง 2 cc ต่อข้าง ขึ้นกับความลึกของร่องแก้วและสภาพผิวหน้าของแต่ละคน ฟีลเลอร์ 1 cc มีปริมาณเท่ากับ 1 มิลลิลิตร และเป็นปริมาณที่พอดีสำหรับปรับแต่งร่องแก้วที่ไม่ลึกมาก ในกรณีร่องแก้วลึกหรือมีปัญหามากกว่า ปริมาณฟีลเลอร์อาจต้องเพิ่มเป็น 2 cc หรือต้องเติมซ้ำหลังจากประมาณ 6 ถึง 12 เดือน
การใช้ฟีลเลอร์ไม่ควรมากเกินไป เพราะอาจทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติและบวมได้ง่าย สำหรับคนที่เริ่มฉีดครั้งแรก ผมแนะนำให้เริ่มที่ 1 cc ต่อข้างก่อน เพื่อประเมินผลและความพึงพอใจในรูปลักษณ์ หลังจากนั้นถ้ายังต้องการเติมเพิ่ม สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อปรับปริมาณอย่างเหมาะสม
นอกจากปริมาณแล้ว การเลือกชนิดของฟิลเลอร์ช่วยอะไร ก็สำคัญ ฟีลเลอร์ที่มีลักษณะแข็งหรือเฉพาะสำหรับเติมลึก เช่น Juvederm หรือ Restylane จะช่วยเติมเต็มร่องแก้วได้ดีและดูเรียบเนียน โดย Juvederm มักบวมช้ากว่าและเนียนกว่าเล็กน้อย แตกต่างจากบางยี่ห้อที่อาจเน้นความยืดหยุ่นมากกว่า
สรุปคือ ฟีลเลอร์ร่องแก้วต้องใช้กี่ cc นั้นขึ้นกับปัญหาและเป้าหมายของแต่ละคน โดยปกติใช้ 1-2 cc ต่อข้าง ถ้าร่องลึกและต้องการแก้ไขเยอะ อาจต้องเพิ่มปริมาณและเติมซ้ำเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและปลอดภัย
ฟีลเลอร์ร่องแก้วต้องใช้กี่ cc
ฟีลเลอร์ร่องแก้วต้องใช้กี่ cc
ฟีลเลอร์ร่องแก้วต้องใช้กี่ cc? ปริมาณฟีลเลอร์ที่เหมาะสมสำหรับร่องแก้วนั้นโดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 1 ถึง 2 cc ต่อข้าง ขึ้นอยู่กับความลึกของร่องและสภาพผิวของแต่ละคน
1 cc ของฟีลเลอร์เทียบเท่า 1 มิลลิลิตร ซึ่งมีลักษณะเป็นเจลใสขนาดเท่าเหรียญบาท 1 cc นี้จะช่วยเติมเต็มในชั้นผิวหนังได้ระดับหนึ่ง แต่ถ้าร่องแก้วยังลึกมากกว่า 1 cc อาจไม่เพียงพอที่จะเติมเต็มจนเรียบเนียน
นอกจากนี้การใช้ฟีลเลอร์ร่องแก้วต้องพิจารณาถึงความยืดหยุ่นและคุณสมบัติของฟีลเลอร์แต่ละยี่ห้อด้วย บางยี่ห้อเหมาะกับร่องแก้มตื้น ที่ต้องการความเรียบเนียนเช่น Juvederm ขณะที่ Restylane ให้ความยืดหยุ่นดีและเหมาะกับการเติมเต็มร่องลึก
จึงขอแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนฉีด เพื่อวางแผนปริมาณฟีลเลอร์อย่างชัดเจน เพราะถ้าเติมไม่พอ ร่องแก้วจะยังเห็นชัด และถ้าใช้มากเกินไป ก็อาจทำให้หน้าดูบวมและไม่สมส่วน
โดยรวมแล้ว ฟีลเลอร์ร่องแก้วต้องใช้กี่ cc จะขึ้นกับลักษณะร่องและความต้องการของแต่ละคน แต่การเริ่มต้นด้วย 1 cc ต่อข้าง จะช่วยให้เห็นผลที่ชัดเจนในร่องไม่ลึกมากและปลอดภัยสำหรับผิวหน้า
ฉะนั้นถ้าคุณอยากรู้ว่าควรใช้ฟีลเลอร์กี่ cc เพื่อเติมร่องแก้ว คำตอบที่ถูกต้องที่สุดคือ “ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์และสภาพใบหน้า” เสมอครับ
ฟีลเลอร์ร่องแก้วต้องใช้กี่ cc
ฟีลเลอร์ร่องแก้วต้องใช้กี่ cc
ฟีลเลอร์ร่องแก้วต้องใช้กี่ cc นั้น ส่วนใหญ่ใช้ประมาณ 1-2 cc ต่อข้างครับ ปริมาณนี้เหมาะกับการเติมเต็มร่องลึกเล็กน้อยถึงปานกลาง เพื่อให้หน้าดูเรียบเนียนขึ้น ฟีลเลอร์ 1 cc คือ 1 ml หรือน้ำหนักเจลประมาณเท่าเหรียญบาทเท่านั้น แต่ก็สามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเจน
อย่างไรก็ดี ปริมาณฟีลเลอร์ที่ใช้จริงต้องขึ้นกับความลึกของร่องแก้วและโครงสร้างหน้าแต่ละคน เช่น ร่องลึกมากอาจต้องใช้ฟีลเลอร์เกิน 2 cc ต่อข้าง หรือใช้ร่วมกับตำแหน่งข้างเคียงเพื่อความสมดุล ส่วนในกรณีที่ร่องแก้วตื้น ๆ 1 cc ต่อข้างก็อาจเพียงพอแล้ว
การเลือกยี่ห้อฟีลเลอร์และชนิดเนื้อเจลก็มีผลครับ ยิ่งฟิลเลอร์ชนิดเนื้อนิ่มจะกระจายตัวได้ดี ต้องใช้ CC น้อยกว่าชนิดเนื้อแข็งที่กระจุกตัวมากกว่า เพื่อเติมเต็มผิวได้สวยงามและเป็นธรรมชาติ
ผมแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยแพทย์จะวิเคราะห์รูปหน้าและความลึกของร่องแก้ว พร้อมประเมินว่าควรใช้ฟีลเลอร์ร่องแก้วต้องใช้กี่ cc อย่างเหมาะสมที่สุดครับ ฟีลเลอร์ใช้ผิดปริมาณอาจทำให้หน้าดูไม่สวยงาม หรือเกิดผลข้างเคียงได้
หากคุณอยากให้ผลลัพธ์ดูดีและเป็นธรรมชาติ ต้องเลือกคลินิกที่มีมาตรฐาน และมีแพทย์ผู้ชำนาญการ เพื่อป้องกันปัญหาหลังฉีดและได้ผลลัพธ์ที่สวยนานครับ
ฟีลเลอร์ร่องแก้วต้องใช้กี่ cc
ฟีลเลอร์ร่องแก้วต้องใช้กี่ cc
โดยทั่วไป ฟีลเลอร์ร่องแก้วต้องใช้ประมาณ 1 ถึง 2 cc ต่อข้าง แต่จำนวนนี้ขึ้นอยู่กับความลึกและขนาดของร่องแก้มแต่ละคน หลายคนสงสัยว่าปริมาณนี้จะเพียงพอหรือไม่ คำตอบคือสำหรับร่องแก้มที่ไม่ลึกมาก 1 cc ก็มักเพียงพอที่จะแก้ไขให้ดูตื้นขึ้นได้ และให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
หากร่องแก้มลึก หรือผิวหย่อนคล้อยมาก ฟีลเลอร์ร่องแก้วต้องใช้กี่ cc ก็อาจสูงขึ้นถึง 2 cc ต่อข้าง เพื่อเติมเต็มและยกกระชับอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ อายุของคนไข้ และโครงสร้างหน้าแต่ละคนมีผลต่อปริมาณฟีลเลอร์ที่ใช้ด้วย
ฟีลเลอร์ที่ใช้จะเป็นเนื้อเจลใสขนาดเท่าเหรียญบาท และ 1 cc เท่ากับ 1 ml ซึ่งเนื้อเจลนี้จะช่วยเติมเต็มร่องแก้มให้ดูเรียบเนียนขึ้นโดยไม่หนักหน้า ผลของฟีลเลอร์จะคงอยู่ประมาณ 6 ถึง 24 เดือน ขึ้นกับชนิดของฟีลเลอร์และการดูแลหลังฉีด
ข้อสำคัญคือการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนฉีด เพื่อประเมินปริมาณฟีลเลอร์ที่ต้องใช้ให้เหมาะกับแต่ละบุคคล แพทย์จะช่วยแนะนำว่าควรใช้ฟีลเลอร์ร่องแก้วต้องใช้กี่ cc เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและปลอดภัย เพราะปริมาณที่เหมาะสมช่วยลดความเสี่ยงปัญหาหลังฉีดได้ด้วย
สรุปคือ ฟีลเลอร์ร่องแก้วต้องใช้กี่ cc ขึ้นกับสภาพร่องแก้มและเป้าหมายของคนไข้ โดยปริมาณโดยทั่วไปอยู่ที่ 1-2 cc ต่อข้าง การเลือกใช้ฟีลเลอร์คุณภาพและแพทย์ที่มีประสบการณ์ จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัยมากที่สุด
ฟีลเลอร์ร่องแก้วต้องใช้กี่ cc ต่อข้าง?
ฟีลเลอร์ร่องแก้วต้องใช้กี่ cc
ฟีลเลอร์ร่องแก้วต้องใช้กี่ cc? คำตอบคือ โดยทั่วไปจะใช้ประมาณ 1-2 cc ต่อข้าง แต่จำนวนที่ใช้จริงขึ้นอยู่กับความลึกและความกว้างของร่องแก้วบนใบหน้าแต่ละคน
ถ้าร่องลึกมาก อาจต้องใช้ฟีลเลอร์มากขึ้นเพื่อเติมเต็มให้ดูเรียบเนียน การฉีดฟีลเลอร์ 1 cc ให้ผลลัพธ์ชัดเจนสำหรับร่องที่ไม่ลึกมาก แต่ถ้าร่องแก้วกว้างและลึก อาจต้องใช้เพิ่มเป็น 2 cc เพื่อแก้ไขได้ครบถ้วน
บางครั้งถ้าใช้ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มกี่เซนติเมตรในตำแหน่งอื่นที่ใกล้กัน เช่น ฟิลเลอร์ขมับควรใช้กี่cc หรือใต้ตา อาจต้องเพิ่มปริมาณรวมเป็น 3-4 cc ต่อข้าง เพื่อให้ผลลัพธ์หน้าโดยรวมดูสมดุลและเป็นธรรมชาติ ไม่เกิดความไม่สม่ำเสมอ
ตัวฟีลเลอร์ที่ใช้ในร่องแก้มมีหลายยี่ห้อ อย่าง Juvederm และ Restylane ที่เป็นที่นิยม โดย Juvederm จะมีความเรียบเนียนและบวมน้อย ส่วน Restylane จะมีคุณสมบัติยืดหยุ่นดีขึ้น ทำให้แพทย์เลือกใช้ตามสภาพผิวและปัญหาของแต่ละคน
สรุปคือ ฟีลเลอร์ร่องแก้วต้องใช้กี่ cc ต่อข้าง ขึ้นกับลักษณะเฉพาะของแต่ละคน แนะนำให้รับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อวางแผนปริมาณและตำแหน่งฉีดที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ
ถ้าคุณอยากรู้รายละเอียดหลักการเลือกฟีลเลอร์หรือฟิลเลอร์ดีไหม หรือฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm และ Restylane ก็สามารถสอบถามได้เพิ่มเติมครับ
สรุปฟีลเลอร์ร่องแก้วต้องใช้กี่ cc
ฉันเป็นแพทย์ผิว ฉันสอนเรื่องนี้ให้เข้าใจง่ายและตรงประเด็น.
ฟีลเลอร์ร่องแก้วต้องใช้กี่ cc เป็นคำถามหลัก.
ร่องลึกต้องมากกว่าร่องตื้น เพื่อเติมเต็มอย่างพอดี.
ค่า cc ขึ้นกับร่องลึก จุด และเทคนิคฉีดที่เลือก.
1 cc พอเห็นผลในจุดเล็ก เช่น ปากหรือคางบางกรณี.
ร่องแก้วลึกอาจต้องเติมซ้ำ ตามแผนที่วางไว้.
ยี่ห้อเนื้อฟิลเลอร์ต่างกัน มีผลต่อความนิ่มและปริมาณ.
ผลลัพธ์อยู่ได้นาน หากดูแลหลังฉีดและติดตามผล.
ฉันแนะนำปรึกษาแพทย์ เพื่อหาปริมาณ cc ที่เหมาะกับคุณ.